"เที่ยวบ้าง อะไรบ้าง" ตอน ตระเวนผิงตง(4)
เดินออกจากสถานีรถไฟมาเรื่อยๆ ความรู้สึกที่มีใกล้เคียงกับคำพูดที่ว่า "นี่แหละ ชีวิตนอกเมือง" ผ่านบ้านเรือนแนวราบสองข้างทาง อาคารสูงไกลๆที่คุณเห็นในรูปด้านบน เป็นอาคารเดียวที่ผมสังเกตเห็นในละแวกนี้
แล้วก็มาถึงทะเลจีนใต้ แท่งปูนมากมายถูกนำมาวางเรียงเป็นแนวกันคลื่นเซาะชายฝั่ง ป้ายเตือนและห่วงยางสำหรับช่วยเหลือฉุกเฉินถูกติดตั้งไว้บนชายฝั่ง หาดทรายสีดำ ใช่ครับสีดำตามภาพ ทอดแนวยาวจนสุดสายตา
อากาศเย็นสบาย
น้ำทะเลใสเย็น
สายลมหนาว
แสงแดดอุ่นๆ
เสียงคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง
ใช่เลยที่ต้องการ
ปล่อยเวลาเดินไป ซึมซับอณูแห่งธรรมชาติเข้าร่าง สูดหายใจเข้าเต็มปอด ผ่อนคลายดีจัง
ผ่านไปพักใหญ่ เข้าสู่ช่วงบ่ายแก่ๆ หลังจากทานอาหารก็ได้สอบถามแม่ค้าเกี่ยวกับโรงแรมที่พัก ผมเดินวนหาอยู่นานก็ยังไม่เจอ แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือก็ใกล้จะหมดลง เลยตัดสินใจเดินกลับไปยังอาคารสูงตามภาพบนสุด เพราะจากที่แม่ค้าบอกผมมาว่าอยู่แถวนี้ผมก็เห็นมีอาคารนี้อยู่อาคารเดียวที่น่าจะใช่ มีกลุ่มผู้สูงอายุนั่งคุยกันอยู่ที่ชั้นล่าง ผมถามหาที่พัก หญิงสูงวัยตอบว่าที่นี่ไม่มี พร้อมชี้ให้ผมไปดูอีกทาง ผมตอบว่าผมถามคนทางนั้นแล้ว เขาบอกให้ผมมาที่นี่ พวกเขาคุยกันสักพักแล้วก็โทรศัพท์ หญิงสูงวัยคนเดิมเชิญให้ผมนั่งขณะที่ชายสูงวัยยื่นน้ำชาสีแดงให้ผมดื่ม. พร้อมชวนผมคุย ประมาณ 5 นาทีผ่านไปมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมา พร้อมยื่นเอกสารให้ผมเขียนชื่อ สอบถามว่าผมมาคนเดียวหรือ ต้องการพักกี่คืน แล้วบอกราคาว่าคืนละ 1,000 เหรียญไต้หวันตกลงไหม เสร็จสรรพเธอก็นำผมไปยังทางขึ้นอาคาร เธอไขประตูหน้า ผมตามเธอไป เธอกดลิฟต์พร้อมชูพวงกุญแจแล้วอธิบายว่าเวลาขึ้นใช้ลิฟต์ต้องสแกนพวงกุญแจนี้กับเครื่องสแกนด้านในถึงจะใช้งานได้ เราขึ้นไปยังชั้น 4 เธอนำผมไปหยุดอยู่หน้าห้องห้องหนึ่งซึ่งมีรองเท้ามากมายวางอยู่บนชั้นวางหน้าห้อง เธอไขกุญแจแล้วเปิดประตู...
Post a Comment: