วันนี้มีโอทีไหม?
เชื่อแน่ว่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ท่านๆ คงคุ้นเคยกับคำถามด้านบนเป็นอย่างดี ไม่ว่าคุณจะเป็นหนุ่มสาวออฟฟิศ หนุ่มสาวโรงงาน หรือพนักงานด้านการบริการ พวกเรารู้จักและต่างเคยทำโอที โอที หรือ overtime(ล่วงเวลา) คือชั่วโมงการทำงานนอกระยะเวลาทำงานปกติ ที่นายจ้างเสนอให้กับลูกจ้างพร้อมอัตราค่าเหนื่อยที่มากกว่าชั่วโมงทำงานปกติ เพื่อจูงใจให้ลูกจ้างยินยอมมอบเวลาส่วนตัว เพื่องานอีกสักชั่วโมง สองชั่วโมงหรือมากกว่านั้น "ทำโอเยอะๆ จะได้มีเงินเยอะๆ"ผมมักได้ยินคำพูดนี้จากคนรอบข้าง ใช่มันจริงแท้แน่นอน เหมือนเราโยนก้อนหินลงแม่น้ำ ก้อนหินก็ต้องจมน้ำ แต่ผมขออนุญาตถามคุณว่า คุณพอนึกออกไหมนอกจากเงิน มีอะไรอีกบ้างที่เราได้เพิ่มมา?..............ประสบการณ์?โอเค จะว่าได้เพิ่มขึ้นก็พอได้อยู่ อย่างอื่นล่ะมีไหม?..............เจ้านายมองเราในด้านบวกขยันทำงาน ข้อนี้ก็พอได้อยู่ มีอีกไหม?..............ถ้าตอนนี้คุณยังคิดไม่ออก เรามามองดูสิ่งที่เสียไปหากเราทำโอที มีอะไรบ้างครับ สุขภาพร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการทำงานที่ยาวนานขึ้น เวลาส่วนตัวที่หายไป สองสิ่งที่เรามองเห็นชัดเจน เรื่องสุขภาพผมให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง หากรู้สึกเหนื่อยผมจะไม่ทำโอเลย ต่างจากเมื่อก่อนที่มองเรื่องเงินมาก่อน ทุกวันนี้ผมจัดลำดับสิ่งสำคัญในชีวิตดังนี้ 1)สุขภาพ 2)ครอบครัว 3)งาน 4)สังคม ผมว่าเราต้องเน้นสุขภาพ หากสุขภาพไม่ดีเราคงไม่สามารถดำเนินชีวิตอย่างราบรื่นแน่ ไม่นานมานี้เพื่อนของผมได้เสนอวงจรที่น่าสนใจ ผมขออนุญาตนำมาแบ่งปันดังนี้ * ทำงาน-ได้เงิน-ป่วย-เอาเงินไปหาหมอ-เงินหมด-ทำงาน-ได้เงิน-ป่วย-เอาเงินไปหาหมอ-เงินหมด-ทำงาน-ได้เงิน-ป่วย-เอาเงินไปหาหมอ-เงินหมด * เอาล่ะผมคงไม่อธิบายต่อสำหรับสุขภาพ มาถึงเรื่องเวลา เวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามาก ผมพบว่า หากผมวางแผนการทำกิจกรรมในชีวิตล่วงหน้า แล้วเดินตามแผนนั้น ผมจะมีเวลาเหลือเพื่อทำอย่างอื่นเพิ่มขึ้น การวางแผนควรมีทั้งระยะสั้นและยาว เช่น ตอนกลางวันเราจะไปทานข้าวที่ไหน? ทานอะไร? ใช้เวลาประมาณเท่าไหร่? แล้วเราจะทำอะไรต่อ? หรือ สุดสัปดาห์นี้เราจะทำอะไรดี? ข้อสำคัญควรมีแผนสำรอง หากเราไม่สามารถทำตามแผนหลักที่วางไว้ได้ หากเราทำโอ เวลาสำหรับกิจกรรมอื่นๆจะลดน้อยลง เราจึงต้องวางแผนการใช้เวลาให้ดี
ป.ล. ข้อความด้านบนผู้เขียนมิได้มีเจตนาให้คุณผู้อ่านไม่ขยันทำโอนะครับ เพียงแต่อยากเสนอแนวคิดเกี่ยวกับลำดับความสำคัญของการใช้ชีวิตของผู้เขียนเอง ทุกวันนี้ผู้เขียนก็ยังคงทำโองกงกเพื่อเงิน หัวเป็นน็อต ตัวเป็นเกลียว(ฮา) แต่วันไหนร่างกายไม่ไหวก็ไม่ฝืน เอาเวลามาเขียน blog ก็โอเคอยู่นะ
ป.ล. ข้อความด้านบนผู้เขียนมิได้มีเจตนาให้คุณผู้อ่านไม่ขยันทำโอนะครับ เพียงแต่อยากเสนอแนวคิดเกี่ยวกับลำดับความสำคัญของการใช้ชีวิตของผู้เขียนเอง ทุกวันนี้ผู้เขียนก็ยังคงทำโองกงกเพื่อเงิน หัวเป็นน็อต ตัวเป็นเกลียว(ฮา) แต่วันไหนร่างกายไม่ไหวก็ไม่ฝืน เอาเวลามาเขียน blog ก็โอเคอยู่นะ
ขอบคุณ คุณ Weeraya Alom สำหรับวงจรที่น่าสนใจ
Post a Comment: